1. Juvederm ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่ใช้เทคโนโลยี hylacross และ vycross มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดยุ่น ช่วยให้ผิวยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติและมีการบวมน้อยหลังจากการฉีด ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความเรียบเนียนและยาวนาน และที่พิเศษไปกว่านั้นฟิลเลอร์นี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับใครที่กลัวเจ็บ
2. Restylane ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดดเด่นใน 2 เทคโนโลยี NASHAtechology มีความคงตัว ไม่ก่อให้เกิดการแตกตัวง่ายและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี OBT technology ให้เรื่องของความยืดยุ่น มีลักษณะเป็นเนื้อเจลสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลายเหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและฉีดในจุดที่มีการเคลื่อนไหวมาก
3. Definisse ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี ผลิตโดยเทคโนโลยี ที่มีชื่อว่า XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) โดดเด่นในด้านการทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห จึงสามารถช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
4. Yvoire ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิกที่ด้วยเทคโนโลยี HICE Cross-link (HIgh Concentration Equalized Cross-link) ลิขสิทธิ์ของบริษัท LG Chem โดยเฉพาะ เป็นที่ยอมรับทั่วโลกส่งออกมาแล้วมากกว่า 44 ประเทศ ฟิลเลอร์ตัวนี้ผ่านการรับรองอย.ของไทย มีการนำเข้าอย่างถูกกฎหมายมั่นใจประสิทธิภาพและความปลอดภัย
5. Flore ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีถึง 2 โมเลกุล เป็น HA แบบ Cross-linked และ Non Cross-linked (Biphasic HA) ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่เป็นทั้งเนื้อแน่นและเนื้ออ่อน ฉีดแค่ 1 แต่ได้ผลลัพธ์ถึง 2 คือได้ทั้งความพุ่ง และความละมุน และยังมีการใช้ HA ที่ได้จากการหมักเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัสเพื่อให้ได้เนื้อเจลที่มีน้ำหนักของโมเลกุล 2,500,000 Da ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง
6. E.P.T.Q ฟิลเลอร์น้องใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP technology ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จุดเด่นตั้งแต่เป็นฟิลเลอร์ที่ความบริสุทธิ์และมีความปลอดภัยสูงมาก โดยมีให้เลือกถึง 3 รุ่นและทุกรุ่นมียาชาผสมมาให้เรียบร้อยทำให้ฉีดแล้วไม่เจ็บ
7. Biohyalux ฟิลเลอร์จากประเทศจีน เป็น Biphasic HA ที่ประกอบไปด้วย Crosslinked HA และ Non Crosslinked HA ได้ใช้เทคนิคการผลิตด้วยเทคโนโลยี BioBalance Technology (BiBT™) ที่โมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดเท่าๆ กัน และมีความบริสุทธิ์สูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้ดีไม่เคลื่อนที่ ไม่มีอาการบวมหลังฉีด ผลลัพธ์ยาวนานเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงไม่แพ้ง่าย
ฟิลเลอร์จากแต่ละแบรนด์มักจะมีการแบ่งแยกเป็นหลากหลายรุ่น ด้วยคุณสมบัติของเนื้อแจลที่แตกต่างออกไป ในการฉีดที่ตำแหน่งต่างๆ ความเชี่ยวชาญของแพทย์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่จะทำการฉีดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆ
หมอหมี (นพ. สราวุธ สุวรรณ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า B.MEE CLINIC
แพทย์ 1 ใน 7 ท่านของประเทศไทย ที่ได้ผ่านการคัดแพทย์ความงาม การฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้เทคนิคเฉพาะที่มากมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่เคยหยุดพัฒนา เพื่อให้คนไข้ของหมอทุกคนได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ