ฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม)
ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่ใช้เทคโนโลยี hylacross และ vycross มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดยุ่น ช่วยให้ผิวยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติและมีการบวมน้อยหลังจากการฉีด ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความเรียบเนียนและยาวนาน และที่พิเศษไปกว่านั้นฟิลเลอร์นี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนไข้ที่กลัวเจ็บ
คือเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของค่าความเก็บกักน้ำได้ดี เป็นตัวดั้งเดิมของฟิลเลอร์ Juvederm ฉีดแล้วผิวอิ่มฟู ตัว HA มีความยืนหยุ่นสูง สามารถทนต่อการขยับได้ดี
เหมาะที่จะฉีดในส่วนที่มีการขยับบ่อย เช่น ร่องแก้ม แก้ปัญหาแก้มตอบ โดยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่อยู่กลุ่ม Hylacross ได้แก่รุ่น Ultra Plus
คือเทคโนโลยีล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีขนาดโมเลกุลที่แน่น และมีคุณสมบัติพิเศษคือ บวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อย เมื่อเทียบกับ HA ชนิดอื่นๆ จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และอยู่ได้นาน
เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเพิ่มโวลุ่มของปาก ให้อวบอิ่มขึ้นหรือฉีดเพื่อเติมเต็มร่องแก้มซึ่ง Juvederm กลุ่ม Vycross ได้แก่รุ่น Volift, Volbella, Volite, Voluma, และ Volux
เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของคนเรามี สาร Hyaluronic Acid อยู่ในผิวหนังอยู่แล้ว แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น จำนวนคอลลาเจนก็ลดน้อยลง ผิวหนังชั้น SMAS ก็เปลี่ยนไป กระดูกมีการทรุดตัว และ Retaining ligaments หรือเส้นเอ็นยึดผิวต่าง ๆ ก็หย่อนคล้อยลง เราจึงสร้างสิ่งอื่นขึ้นมาทดแทน และสิ่งนั้นฟิลเลอร์นั่นเอง
คุณสมบัติ: มีเนื้อฟิลเลอร์ที่ละเอียดเล็กที่สุดในทุกรุ่น, เนื้อเจลบางเบาที่สามารถช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และสามารถฉีดเข้าไปที่ชั้นหนังแท้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถใช้ในการปรับปรุงคุณภาพผิวของเรา ให้ดูอิ่มน้ำ ยืดหยุ่นมากขึ้น เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นหรือแม้แต่การรักษาหลุมสิวก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Volite นี้ในการแก้ไขปัญหาได้เช่นเดียวกัน
ตำแหน่งการฉีด: เหมาะสำหรับใช้ฉีดในการแก้ไขปัญหาผิวหน้าที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ , เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูเรียบเนียนและฉ่ำวาว, ลดขนาดรูขุมขนที่กว้าง , รักษาหลุมสิว
อยู่ได้นาน: 6-8 เดือน
คุณสมบัติ: มีเนื้อฟิลเลอร์ที่เป็นโมเลกุลเล็ก ไม่เป็นก้อน และมีความละเอียดเนียน สามารถกลืนกับผิวได้ดี ทั้งยังคงคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ
ตำแหน่งการฉีด: สามารถใช้เติมเต็มแก้ไขปัญหา ร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก โดยที่ไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงทรงปากเดิม
อยู่ได้นาน: 8-12 เดือน
คุณสมบัติ: มีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความนิ่มปานกลาง มีเนื้อเจลที่เรียบเนียน และไม่ไหลง่าย ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ตำแหน่งการฉีด: สามารถใช้ฉีดในบริเวณร่องลึกต่าง ๆ เช่น ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก, แก้มตอบ, ขมับ และใต้ตาชั้นลึกเพื่อแก้ไขถุงใต้ตา สามารถใช้ปรับรูปทรงปาก เพิ่มวอลลุ่มปาก
อยู่ได้นาน: 12-18 เดือน
คุณสมบัติ: มีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งรองลงมาจากรุ่น Volux แต่ยังคงคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี เนื้อเจลมีความพิเศษสามารถกลืนกับผิวได้ไวแต่ยังมีความคงรูป ปั้นง่าย เนื้อเนียนละเอียด ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Juvederm
ตำแหน่งการฉีด: เหมาะสำหรับใช้ฉีดในบริเวณขมับ, แก้มส้ม, แก้มตอบ, ใช้ปรับรูปทรงคางให้ดูละมุน, ยกกระชับช่วงหน้า(Midface), แก้ไขร่องแก้ม และปรับปรุงมุมปากที่ตก
อยู่ได้นาน: 18-24 เดือน
คุณสมบัติ: เป็นรุ่นที่มีเนื้อฟิลเลอร์แข็งที่สุดในทุกรุ่นของ Juvederm แต่เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่กลืนกับผิวได้ดีทำให้มีความนุ่มเมื่อสัมผัส คุณสมบัติพิเศษของฟิลเลอร์รุ่นนี้คือ สามารถขึ้นทรงสวยได้ คงรูปได้ดี และสามารถยกกระชับผิวหนังได้
ตำแหน่งการฉีด: เหมาะสำหรับใช้ในการปรับแนวกระดูกบริเวณกราม, ขากรรไกร, ปรับรูปทรงคาง, เพิ่มความยาว, พร้อมทั้งปรับรูปหน้าและกรอบหน้าให้มีความชัดเจนมากขึ้น
อยู่ได้นาน: 18-24 เดือน
การใช้ฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคการฉีดในชั้นผิวหนังชั้นในสุด หรือที่เรียกว่า “การฉีดชั้นลึก” ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความแม่นยำอย่างสูงจากแพทย์ โดยต้องมีความรู้ด้าน Anatomy และเส้นเลือดอย่างละเอียด เพื่อให้การฉีดมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เทคนิคนี้มีผลต่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่คนไข้ต้องการเพื่อแก้ปัญหาการทรุดตัวของเส้นเอ็นและชั้นกระดูก และเมื่อชั้นผิวหนังภายในได้รับการฟื้นฟูจากฟิลเลอร์ ผิวหนังด้านนอกจะดีขึ้นด้วย และยังช่วยป้องกันการเกิดก้อนหลังการฉีด อย่างไรก็ตามการเลือกใช้เทคนิคนี้ยังควรพิจารณาสภาพผิวหน้าและอาการของคนไข้เป็นหลัก
คุณหมอจะให้ข้อมูลและอธิบายขั้นตอนการรักษาอย่างละเอียด เนื่องด้วยการรักษาของแต่ละเคสมีความแตกต่างกัน และสิ่งสำคัญ ทางคลินิกจะแนะนำวิธีการตรวจสอบคุณภาพของฟิลเลอร์ ประกอบกับการแสดงคุณสมบัติของยาแท้ ซึ่งคนไข้สามารถตรวจสอบได้ เพื่อความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และผ่านมาตรฐานจากบริษัทยาที่เชื่อถือได้
มีบริการหลังการรักษาที่ดีเยี่ยม ซึ่งครอบคลุมการติดตามอาการและการให้ข้อมูลแก่คนไข้อย่างสม่ำเสมอ นี่คือความเชื่อมั่นที่คนไข้สามารถรู้สึกได้ และเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
แพทย์ 1 ใน 7 ท่านของประเทศไทย ที่ได้ผ่านการคัดแพทย์ความงาม จากบริษัท Allergan
การฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้เทคนิคเฉพาะที่มากมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และ Allergan คือแบรนด์ที่มีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาเทคนิคในการฉีดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ“หมอไม่เคยหยุดพัฒนา เพื่อให้คนไข้ของหมอทุกคนได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจแพทย์ 1 ใน 7 ท่านของประเทศไทย ที่ได้ผ่านการคัดแพทย์ความงาม จากบริษัท Allergan
“ใบหน้าของเรามีเพียงหนึ่งเดียว เราจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์และคุณหมอที่ดีที่สุด”
อยากปรับรูปหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ให้ความสวยทันที ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ขอนแก่น ที่ B.MEE Clinic
A :
A : ไม่อันตรายค่ะ หากตัวยาที่ฉีดเป็นตัว HA หรือเป็นยาแท้ ไม่ใช่ยาปลอม ยาหิ้ว และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่หมอมือปืน หรือหมอกระเป๋า ก็จะปลอดภัย 100% แต่หากว่า ฉีดกับหมอปลอมหรือใช้ยาปลอม ก็จะก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้ค่ะ
A : จะมีทั้งคงอยู่แบบไม่ถาวรและถาวรค่ะ หากเป็นฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อ.ย จะสลายหายไปเองค่ะ แต่หากตัวที่ฉีดไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ เป็นยาปลอม จะไม่สามารถสลายหายไปเองได้ หากต้องการให้ตัวยาที่ฉีดหายไป อาจจะต้องทำการขูดออก หรือ อาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัดเพื่อตัดสารนั้นออกมา เพราะบางทียาปลอมอาจจะผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับผิว ขูดออกไม่ได้ค่ะ
A : ปกติจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี บางยี่ห้ออยู่ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งเวลาในการสลายก็จะขึ้นอยู่กับเกรดยาของแต่ละยี่ห้อ และถ้าเป็นยาแท้ 100% ก็จะสลายหายไปจนหมดค่ะ
A : จะเห็นผลทันทีหลังฉีดค่ะ ส่วนในเรื่องของอาการบวมจะมีโดยประมาณ 2-5 วันแล้วจะค่อยๆยุบลงค่ะ และฟิลเลอร์จะใช้เวลาโดยประมาณ 1 เดือน ในการเข้าที่และสมานเป็นเนื้อเดียวกับบริเวณที่เราฉีดค่ะ
A : บริเวณที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ คือบริเวณจมูกและบริเวณหัวคิ้วค่ะ เพราะบริเวณจมูกจะใกล้กับเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา หากแพทย์ที่ทำการฉีดไม่ชำนาญการ จะเสี่ยงทำให้ตาบอดได้ ส่วนบริเวณหัวคิ้วผิวหนังบริเวณนี้จะมีความบางมากๆเหมือนกับการนำกระดาษ a4 มาวางต่อกัน 5 ชั้นค่ะ
A : ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลยค่ะ แต่อาจจะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของคลินิกที่แจ้งมาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟิลเลอร์คงประสิทธิภาพอยู่ได้นานขึ้น
เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา มีเทคโนโลยี hylacross และ vycross มีความยืดยุ่นสูง ทนต่อการขยับ สามารถยกกระชับได้ดี การบวมน้ำน้อยหลังฉีดมีความเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน จุดเด่นคือ เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ด้วย ดังนั้นคนไข้ที่กลัวเจ็บ สบายใจได้
คือเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของค่าความเก็บกักน้ำได้ดี เป็นตัวดั้งเดิมของฟิลเลอร์ Juvederm ฉีดแล้วฟู ตัว HA มีความยืนหยุ่นสูง สามารถทนต่อการขยับได้ดี
เหมาะที่จะฉีดในส่วนที่มีการขยับบ่อย เช่น ร่องแก้ม แก้ปัญหาแก้มตอบ โดยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่อยู่กลุ่ม Hylacross ได้แก่รุ่น Ultra Plus
คือเทคโนโลยีล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีขนาดโมเลกุลที่แน่น และมีคุณสมบัติพิเศษคือ บวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อย เมื่อเทียบกับ HA ชนิดอื่นๆ จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และอยู่ได้นาน
เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเพิ่มโวลุ่มของปาก ให้อวบอิ่มขึ้นหรือฉีดเพื่อเติมเต็มร่องแก้มซึ่ง Juvederm กลุ่ม Vycross ได้แก่รุ่น Volift, Volbella, Volite, Voluma, และ Volux
เป็นฟิลเลอร์ เกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากประเทศเกาหลี โดยบริษัท เมดิเซเลส Neuramis ผ่าน อย.ประเทศไทย เกาหลี EDQM จากยุโรป และ USFDA จากอเมริกา จำหน่ายไปมากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก
เป็น Biphasic HA ที่ประกอบไปด้วย Crosslinked HA และ Non Crosslinked HA ได้ใช้เทคนิคการผลิตด้วยเทคโนโลยี BioBalance Technology (BiBT™) ที่โมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดเท่าๆ กัน และมีความบริสุทธิ์สูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้ดีไม่เคลื่อนที่ ไม่มีอาการบวมหลังฉีด ผลลัพธ์ยาวนานเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงไม่แพ้ง่าย ผ่านอย.ทั้งไทย และยุโรป
ฟิลเลอร์น้องใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP technology ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จุดเด่นตั้งแต่เป็นฟิลเลอร์ที่ความบริสุทธิ์และมีความปลอดภัยสูงมาก โดยมีให้เลือกถึง 3 รุ่นและทุกรุ่นมียาชาผสมมาให้เรียบร้อยทำให้ฉีดแล้วไม่เจ็บ
เป็นฟิลเลอร์เกาหลี ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีถึง 2 โมเลกุล เป็น HA แบบ Cross-linked และ Non Cross-linked (Biphasic HA) ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่เป็นทั้งเนื้อแน่นและเนื้ออ่อน ฉีดแค่ 1 แต่ได้ผลลัพธ์ถึง 2 คือได้ทั้งความพุ่ง และความละมุน และยังมีการใช้ HA ที่ได้จากการหมักเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัสเพื่อให้ได้เนื้อเจลที่มีน้ำหนักของโมเลกุล 2,500,000 Da ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง ได้รับมาตรฐาน อย.ไทย
เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดดเด่นใน 2 เทคโนโลยี NASHAtechology มีความคงตัว ไม่ก่อให้เกิดการแตกตัวง่ายและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี OBT technology ให้เรื่องของความยืดยุ่น มีลักษณะเป็นเนื้อเจลสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลายเหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและฉีดในจุดที่มีการเคลื่อนไหวมากซึ่งคุณหมอจะประเมินความเหมาะสมให้อีกทีว่าจุดไหนควรใช้รุ่นไหน
ศูนย์ศัลยกรรมความงามและปรับรูปหน้า โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ B.MEE CLINIC ดูแลโดยนายแพทย์สราวุธ สุวรรณซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมเสริมความงาม เปิดให้บริการด้านความงามอย่างครอบคลุม …
